ดีเอสไอลุยสอบตลาดนำเข้ารถหรู'เกรย์ มาร์เก็ต'

14 มี.ค. 2012 bangkokbiznews ดีเอสไอลุยสอบตลาดนำเข้ารถหรู "เกรย์ มาร์เก็ต" พบพิรุธทำเอกสารเท็จ อำพรางการขายเปลี่ยนมือ ก่อนสำแดงราคาต่ำกว่าท้องตลาด นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวการตรวจสอบคดีหลบเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์ว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ประสานให้ดีเอสไอตรวจสอบพฤติการณ์หลบเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์หรู ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์หรู หลายยี่ห้อ มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า ทำให้รัฐสูญเสียรายได้มูลค่าหลายล้านบาท โดยอาศัยช่องว่างของกฎหมายในการนำเข้ารถด้วยการหลีกเลี่ยงภาษีหลายรูปแบบ เช่น 1.กรณีสำแดงรายการส่วนประกอบของรถยนต์ (OPTIONS) ไม่ครบ หรือรถที่มีรายการส่วนประกอบคุณภาพสูงแต่กลับสำแดงว่าเป็นรถรุ่นธรรมดา ทำให้เสียภาษีศุลกากรต่ำกว่าความเป็นจริง 2.กรณีการสำแดงราคารถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งเป็นวิธีที่ที่ผู้ประกอบการเลี่ยงภาษีรถยนต์หรูในตลาดเกรย์ มาร์เก็ต (Gray Market) นิยมกรณีนี้ที่สุด กรณีออกใบเสร็จรับเงินหรือลงบัญชีต่ำกว่าราคาขายจริง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบการยื่นเสียภาษีสรรพากร และ 3.กรณีการจดทะเบียนรถยนต์ที่นำชิ้นส่วนเข้ามาจดประกอบว่ามีการเสียภาษีครบถ้วนหรือไม่ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พิจารณาต่อไป "การหลบเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์ถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะสร้างความเสียหายต่อภาษีของรัฐจำนวนมาก เนื่องจากรถที่นำเข้าด้วยวิธีเลี่ยงภาษีมักเป็นรถหรูที่มีราคาแพง มีอัตราภาษีที่ต้องเสียหากมีการนำเข้าตั้งแต่ 187-328 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ช่องโหว่ที่ทำให้ปัญหามีทั้งขั้นตอนการตรวจสอบที่เปิดช่องให้ผู้ประกอบการสำแดงการเสียภาษีและรับรองเอกสารด้วยตัวเอง ดังนั้นผู้ประกอบการเหล่านี้จึงมักสำแดงรถที่มีอุปกรณ์ประกอบของรถยนต์ระดับคุณภาพดีเป็นแบบคุณภาพธรรมดา และแจ้งราคาต่ำกว่าราคาจริง เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์เลี่ยงภาษีในตลาดเกรย์ มาร์เก็ต มีกว่า 30 บริษัท โดยมีลักษณะการเปิดเป็นโชว์รูมอย่างเปิดเผย แต่มักจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทอยู่ตลอด" นายธาริต กล่าวอีกว่า จากข้อมูลพบว่าในแต่ละเดือนมีการนำเข้ารถหรูจำนวนมาก เช่น ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาเพียง 1 เดือน เฉพาะรถยี่ห้อเบนซ์ มีการนำเข้ามามากถึง 300 คัน และยังนำเข้ารถจดประกอบอีก 166 คัน เบื้องต้นดีเอสไอจะมุ่งเอาผิดกับผู้ประกอบการที่เจตนาหลบเลี่ยงภาษี สำแดงราคาอันเป็นเท็จ และต้องฝากเตือนไปยังผู้ซื้อให้เลิกพฤติกรรม เพราะอาจถูกดำเนินคดีฐานสมรู้ร่วมคิด ด้านพ.ต.อ.ญาณพล กล่าวว่า จากการประเมินพบมีภาษีต้องเรียกคืนรัฐจำนวนมากถึงหลักพันล้านบาท แต่เบื้องต้นตรวจสอบพบต้องเรียกเก็บภาษีเพิ่มแล้ว 43 ล้านบาท ผู้ประกอบการลักษณะนี้จะอาศัยช่องว่างของกฎหมายนำเข้ามาหลายช่องทางเช่น การสวมสิทธินักเรียนไทยในต่างประเทศ ซึ่งบางครั้งพบว่ารถซื้อโดยไม่ได้นำมาใช้งานจริง แต่มีการรอให้ครบกำหนดเวลาที่ต้องครอบครองให้ครบ 1 ปี 6 เดือน จึงจะสามารถนำกลับมาใช้ในประเทศไทยได้ ซึ่งนักศึกษาที่ถูกอ้างชื่อเป็นเจ้าของรถจากการตรวจสอบบางรายไม่น่าจะมีรายได้มากพอซื้อรถราคาแพง "วิธีการที่แพร่หลายในการซื้อรถยนต์เกรย์ มาร์เก็ต ผู้ซื้อจะเข้าไปเลือกซื้อรถยนต์รุ่นที่ประกาศในเวปไซต์ จากนั้นผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในต่างประเทศ จะรับเป็นนายหน้าจัดซื้อรถยนต์จากชาวต่างชาติและขอให้เซ็นเอกสารย้อนหลัง เพื่ออำพรางให้เห็นว่าครอบครองรถยนต์มานานกว่า 1 ปี 6 เดือน ต่อจากนั้นอำพรางให้เห็นว่า มีการขายเปลี่ยนมือรถยนต์อีกหลายครั้ง รถหรูบางคันเพิ่งถูกซื้อไม่เกิน 15 วัน ในราคา 16 ล้านบาท แต่มีการทำเอกสารขายเปลี่ยนมือไปมา และสำแดงราคานำเข้ามาในประเทศไทยแค่ 2 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งวิธีการของเกรย์มาร์เก็ตเป็นที่นิยมแพร่หลาย สามารถเสนอขายรถยนต์หรู Maybach ราคานำเข้าถูกต้องขายคันละ 90 ล้านบาท แต่เกรย์มาร์เก็ตขายเพียง 20 ล้านบาท" พ.ต.อ.ญาณพล กล่าว

ตลาดรถเกรย์มาร์เก็ตรุ่งลุยภูมิภาต

ตลาดรถหรูหัวเมืองใหญ่บูม ค่ายเกรย์มาร์เก็ตสบช่องลุยเปิดสาขาใหม่ อีตั้น ทุ่ม 10 ล้านสาขาขอนแก่น หวังรองรับลูกค้าอีสาน-ลาว พร้อมอัดเม็ดเงินการตลาด 20 ล้านเน้นโรดโชว์ มั่นใจสิ้นปีกวาดเป้า 900 คัน ด้าน ทีเอสแอล ล่องใต้เปิดสาขาภูเก็ตอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าปี 55 ยอดขายโต 960 คัน

นางอัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบประมาณ 10 ล้านในการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ ที่จังหวัดขอนแก่น โดยได้ทำการทดลองเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ถือเป็นศูนย์แบบครบวงจร โดยมีพื้นที่ในการจอดโชว์รถใหม่จำนวน 6 - 8 คัน และรองรับบริการหลังการขาย 10 ช่องซ่อม ส่วนรุ่นรถที่เน้นทำการตลาดคือรถกลุ่มยุโรป อาทิ เบนซ์ เพราะลูกค้ามีความต้องการสูง ด้านรถญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นรถกลุ่มเอ็มพีวี อาทิ อัลพาร์ด ซึ่งสัดส่วนเป้าหมายยอดขายรถทั้ง 2 กลุ่มคาดว่ายุโรปจะมีประมาณ 80% และญี่ปุ่น 20% "การเข้าไปรุกในตลาดภาคอีสานในครั้งนี้ เพราะว่ามีการศึกษาว่ากลุ่มลูกค้ามีเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีเกรย์มาร์เก็ตที่มีคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการเข้าไปทำตลาด ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะไปเปิดที่นั่น ประกอบกับกลุ่มลูกค้าในจังหวัดใกล้ๆรวมไปถึงลาว ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันยอดขายของสาขานี้ให้เติบโตเหนือกว่าสาขาอื่นๆที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆของอีตั้น" นางอัจฉรีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันอีตั้นมีโชว์รูมและศูนย์บริการ 5 แห่งได้แก่ ศรีนครินทร์ ,สาทร ,รัชดาฯ ,ขอนแก่น และเชียงใหม่ ตามแผนงานในปีนี้จะไม่มีการขยายสาขาเพิ่ม แต่จะมีการเน้นไปที่การบริการหลังการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งศูนย์บริการที่สำนักงานใหญ่ศรีนครินทร์ ที่ได้มีการก่อสร้างบนพื้นที่ 1.5 ไร่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ETON EXCELLENCE SERVICE ที่สามารถรองรับลูกค้าได้ 40 คันต่อวัน หรือกว่า 1,000 คันต่อเดือน นอกจากนั้นแล้วยังมีช่องทางพิเศษสำหรับการให้บริการตรวจเช็กระยะ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที ลูกค้าก็สามารถรับรถกลับได้ทันที ขณะที่เครื่องไม้เครื่องมือที่จะดูแลรถเฉพาะรุ่นก็มีพร้อม อาทิ PIWIS II เฉพาะ PORSCHE ,MB STAR สำหรับเบนซ์ และ ISID ของ MINI ด้านนายพีรศุษม์ ตันติยันกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด กล่าวว่า นอกจากแผนงานด้านช่องทางการขาย และศูนย์บริการแล้ว ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆประมาณ 4 -5 รุ่น อาทิ New Alphard / New Vellfire / Mini Coupe / Porsche Carera S 911 และ Land Cruiser ZX 200 ขณะที่เป้าหมายยอดขายในปี 2555 ตั้งไว้ที่ 900 คัน เติบโตจากปีที่ผ่านมา 12% โดยในปี 2554 มียอดขาย 801 คัน แบ่งเป็นประเภทของรถต่างๆได้ดังนี้คือ MPV 54 % SUV 18% SEDAN 18% และรถสปอร์ต 7 % "ผลประกอบการในปีที่แล้ว เรายอมรับว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพราะโดนผลกระทบจากภัยธรรมชาติถึง 2 ครั้ง คือ สึนามิที่ญี่ปุ่นและน้ำท่วมใหญ่ในไทย ทำให้ยอดขายลดลง โดยทำได้ 801 คันลดลงจากปี 2553 ที่ทำได้ 934 คัน " นางอัจฉรีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของนโยบายทางการตลาด ปีนี้จะใช้งบประมาณเทียบเคียงกับปีที่ผ่านมาคือ 20 ล้านบาท โดยจะเน้นหนักไปที่การทำโรดโชว์ในพื้นที่กรุงเทพฯและตามภูมิภาคต่างๆเพื่อเป็นการเข้าหากลุ่มลูกค้าโดยตรง นอกจากนั้นแล้วก็จะมีการนำเสนอแคมเปญทางการตลาดออกมาต่อเนื่อง อาทิ ลูกค้าที่ซื้อรถตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 สามารถจับสลากลุ้นรับรางวัลทองคำทันทีมูลค่ารวมกว่า 18 บาท หรือ Crystal Coat Package บริการ-ขัดเคลือบสีรถด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ หรือ รับประกันสินค้า 2 ปี ระยะทาง 40,000 กม. หรือบัตรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องฟรี

นอกจากค่ายอีตั้นที่เข้าไปขยายฐานในจังหวัดขอนแก่นแล้ว ในภาคใต้อย่างภูเก็ตก็มีเกรย์มาร์เก็ตรายใหญ่จากกรุงเทพฯเข้าไปเปิดสาขา ได้แก่ ทีเอสแอล ที่เข้าไปตั้งโชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรแห่งที่ 4 บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตรโดยได้ทำการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2555 จะมีรถรุ่นใหม่หลายรุ่นเข้ามาทำตลาด รวมไปถึงมีการวางงบประมาณทางการตลาดกว่า 50 ล้านบาท และจะเน้นหนักไปที่การทำโรดโชว์-เข้างานคาร์โชว์ รวมไปถึงมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าผู้ถือบัตรมิราเคิลการ์ด ขณะที่เป้าหมายยอดขายในปีนี้ คาดว่าหากไม่มีเหตุการณ์หรือปัจจัยลบเข้ามากระทบ จะอยู่ที่ประมาณ 960 คัน และสัดส่วนยอดขายหลักยังมาจากรถยุโรป 70% และรถญี่ปุ่น 30% ทั้งนี้เป็นผลมาจากค่าเงินในฝั่งยุโรปที่อ่อนตัวทำให้ราคารถที่นำมาจำหน่ายมีความได้เปรียบ ขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นนั้นแข็งค่า ประกอบกับรถรุ่นใหม่ๆจากฝั่งญี่ปุ่นมีน้อยกว่า จึงทำให้สัดส่วนยอดขายรถในปี 2555 มาจากรถยุโรปมากกว่า

โดยฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,716   23-25  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

“TSL” มั่นใจฟันยอด3พันล้าน (12 ธ.ค. 25524)

TSL ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ ไม่หวั่นภาวะน้ำท่วม 2 เดือนฉุดยอดขายร่วง 30% พร้อมปรับแผนสู้เพิ่มมูลค่ารายได้ ลดสัดส่วนรถญี่ปุ่น-เพิ่มรถยุโรป มั่นใจปิดยอดรวมปีนี้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท

นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติถึง 2 ครั้ง ในช่วงต้นปีจากสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น และล่าสุดจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายยอดขายของบริษัทฯ ในปี 2554 จากเดิมที่ตั้งไว้ 960 คัน ลดลงมาเหลือเท่ากับปีที่แล้ว อยู่ที่ 800 คัน แต่สำหรับรายได้รวมตลอดทั้งปีมั่นใจว่าจะเพิ่มขึ้น 15% หรือเติบโตกว่า 600 ล้านบาท

“ในภาวะปกติ ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนจะอยู่ที่ 80 คัน แต่ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ที่ผ่านมา ยอดขายลดลง 30% หรือเหลือประมาณ 50 คันต่อเดือน และถึงแม้จำนวนยอดส่งมอบทั้งปีจะไม่เพิ่มขึ้น แต่มูลค่าของตัวเลขมีความแตกต่าง เนื่องจากเราเปลี่ยนกลยุทธ์การให้น้ำหนักและวางแผนการส่งมอบรถยนต์ ในปี 2554 เป็นรถยุโรป 70% และรถญี่ปุ่น 30% กลับกันจากเดิมปี 2553 ที่มีสัดส่วนเป็นรถยุโรป 40% และรถญี่ปุ่น 60% มั่นใจว่าตัวเลขรายได้ของปีนี้ จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 2,400 ล้านบาท อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท โดยล่าสุดยอดขายสะสม 11 เดือนแรกของปี 54 (ม.ค.-พ.ย.) อยู่ที่ 670 คัน”

นางสาวสุรีย์ภรณ์ กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2011 บริษัทฯ ตั้งเป้าการจองรถยนต์ไว้ที่ 150 คัน ลดลง 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 300 คัน โดยระหว่างวันที่ 1-7 ธันวาคม ที่ผ่านมา มียอดจองแล้วทั้งสิ้น 79 คัน แบ่งเป็นสัดส่วนรถประเภทซาลูน 25% จำนวน 19 คัน, เอ็มพีวี 10% จำนวน 8 คัน, เอสยูวี 45% จำนวน 36 คัน, สปอร์ตและซูเปอร์คาร์ 20% จำนวน 16 คัน

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2555 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวม 960 คัน วางงบการตลาดไว้ที่ 50 ล้านบาท โดยจะยังไม่เพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการ แต่จะมุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และคุณภาพงานบริการให้มากขึ้น อาทิ สิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ถือบัตรมิราเคิล การ์ด นอกเหนือจากที่จอดรถตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ ส่วนลด รวมถึงการได้รับบริการที่เพิ่มขึ้นจากพันธมิตรทางธุรกิจ หรือการรับ-ส่งรถ ฟรี ให้กับลูกค้า และเดินสายโรดโชว์ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงขั้นตอนวางแผนดำเนินการ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

MTM&Spyker ยกทัพรถแรง กระหึ่มมอเตอร์เอ็กซ์โป (2 ธ.ค.2554)

Spyker C8 Double 12

เอ็มทีเอ็ม พร้อมลุยไม่กลัวน้ำท่วมส่งขบวนรถแรงยั่วเศรษฐีกระเป๋าหนักถึง 6 รุ่น นำโดย “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ8แอล” ที่มากับโฉมปัดเงาอลูมิเนียม พร้อมด้วยสปอร์ตสุดแรง “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ5”, “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ7” รวมถึงรถสปอร์ตฉบับกระเป๋า “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ1” และ รถสปอร์ตเอสยูวี “เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว5” ที่สอดรับกับกระแสน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี เหนืออื่นใด เผยโฉม Spyker C8 Double 12 เวอร์ชั่นพิเศษ ปัดเงาสีอลูมิเนียม สร้างความโดดเด่นลำสมัย สมกับความเป็นรถสปอร์ตระดับซุปเปอร์คาร์

นายกิตติภัฎ เฉลยทรัยพ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอ็มทีเอ็ม มอเตอเรน เทคนิค ไมเยอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 28 นี้ บริษัท ฯ ได้นำยนตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดจาก เอ็มทีเอ็มและสปายเกอร์ เข้ามาร่วมจัดแสดง ถึง 7 รุ่น ได้แก่

รถยนต์ สปายเกอร์ ซี8 ดับเบิ้ล ทเวลฟ์ ( Spyker C8 Double 12) ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของบู๊ทเอ็มทีเอ็ม ซึ่ง ซี 8 ดับเบิ้ล ทเวลฟ์ ได้รับการปัดเงาสีใหม่เป็น สีอลูมิเนียมเงาวับ ทั้งคันเพื่อแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยี ด้านตัวถังที่ผลิตจากอลูมิเนียมทั้งคัน ทั้งยังเป็นเทรนด์ใหม่ของรถสปอร์ตระดับหรูหรา มีระดับเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ ความโดดเด่นและมีเอกลักษย์เฉพาะตัว ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 400 แรงม้า โดยกำหนดราคาขายไว้ที่ 30 ล้านบาท

ขณะที่ไฮไลท์ที่โดดเด่นอีกหนึ่งรุ่นได้แก่ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ8แอล (MTM Audi A8L) ลักชัวรี่คาร์รุ่นท็อปสุด มีฐานล้อยาวพิเศษ Long Wheel Base ที่มีความยาวถึง 5.2 เมตร บ่งบอกถึงความเป็น ผู้บริหารระดับ First Class สวยหรู และคงความสะดวกสบายสไตล์ออดี้ โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 TDI Quattro ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุดง 650 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 2500-3200 รอบ/นาที ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถทำได้ภายในเวลาเพียง 5.9 วินาที อัตราลิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 15.1 กิ?โล?เมตร/ลิตร พร้อมฟังก์ชั่นสุดล้ำ สวยสมราคาและความปลอดภัยเป็นเลิศ

MTM Audi A8L

ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งอย่างดี โดยมีที่นั่งด้านหลังไฟฟ้าปรับได้อิสระจากกันพร้อมระบบทำความอุ่น คอนโซลกลางขนาดยาวเต็มพื้นที่ ระบบนวดผ่อนคลายและระบบระบายอากาศสำหรับเบาะที่นั่ง โต๊ะด้านหลังแบบพับเก็บได้ กล่องเย็นบรรจุเครื่องดื่ม ระบบ entertainment สำหรับเบาะหลัง เครื่องเสียงจาก Bang & Olufsen และระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน

ในเรื่องของเทคโนโลยี Audi A8 L มาพร้อมระบบ MMI Navigation Plus ที่ใช้หน้าจอสัมผัสเพื่อเข้าถึงที่อยู่ของเป้าหมายการเดินทางโดยการค้นหา ผ่านตัวอักษรโดยใช้นิ้วสัมผัส ระบบต่อเชื่อมอินเตอร์เน็มผ่าน WLAN(ผ่านระบบ UMTS) ระบบ Adaptive Cruise Control พร้อมฟังค์ชั่น Stop & Go และระบบช่วยมองในเวลากลางคืน Night Vision Assistant ที่มาพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน

นอกจากนั้น ทาง MTM ก็ได้นำรุ่นอื่นๆมาให้ชมกันอีกคือ เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ7 รถสปอร์ตซีดานแนวคิดใหม่ที่ออกแบบให้เป็น 4 ประตู ฉีกกฏความเชื่อเดิมที่ว่ารถสปอร์ตต้องมีเพียง 2 ประตูเท่านั้น ดีไซน์ภายนอก หลังคาหลังลาดโค้งรับกับประตูคู่หลังดูอย่างลงตัวตามแบบฉบับรูปทรงของรถแบบคูเป้

การตกแต่งภายในของ เอ7 เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อันทันสมัยที่ถูกจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งใช้งานง่าย ทั้งยังให้ความรู้สึกสปอร์ตด้วยพวงมาลัยหนังแท้ 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งหนังแท้ปรับไฟฟ้า แผงคอนโซลหนังคุณภาพสูงตัดสลับด้วยลายไม้และวัสดุอลูมิเนียม

หัวใจบรรจุเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ(TDI) ขนาด 3.0 ลิตรที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มจากเอ็มทีเอ็มจนทำให้มีพละกำลังสูงสุดถึง 285 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 580 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (S-Tronic) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 260 กม./ชม. ตอบโจทย์ความเป็นสปอร์ตได้เหนือกว่าใคร

เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ1 รถสปอร์ตแฮตช์แบค ที่ผสานความลงตัวระหว่างความแรงกับความคล่องตัวในแบบฉบับของรถขนาดเล็กตาม สไตล์ยุโรปโดยเน้นในเรื่องของสมรรถนะ การทรงตัว การเกาะถนนและสิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยในระดับสูงสุด

เครื่องยนต์ของเอ1 เป็นแบบเบนซินขนาด 1.4 ลิตร เทอร์โบ (TFSi) ให้กำลังสูงสุดถึง 152 แรงม้าที่ 5,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตรที่ 4,100 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบ S-Tronic อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. ให้การขับขี่ที่สนุกเร้าใจแบบยุโรปได้อย่างดี

เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว 5 ยตรกรรม SUV จากออดี้ ที่ผสมผสานความโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในท้องถนน และ ให้ความสะดวกสบายแบบรถ SUV มาพร้อมกับช่วงล่างที่ได้มาตรฐาน เกาะพื้นถนนได้อย่างดี

เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว 5 บรรจุเครื่องยนต์ 2.0 TFSI ผสานเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ S-tronic และได้รับการปรับแต่งจาก เอ็มทีเอ็ม มีกำลังสูงสุดถึง 270 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที มีแรงบิดถึง 390 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร อยู่ที่ 6.8 วินาที ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 248 กิโลเมตร ต่อ ชม.

ภายในเอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว 5 มาพร้อมกับออฟชั่นเสริมมากมาย ประตูปิด ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังเป็นแบบไฟฟ้า ไฟหน้า LED มาพร้อมกับชุดแต่ง ล้อแม๊กซ์ไบโมโต จาก เอ็มทีเอ็ม เพื่อเสริมความสวยงามมีสไตล์ที่โฉบเฉี่ยว และการตกแต่งสไตล์ยุโรปได้อย่างลงตัว

เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ 5 รถสปอร์ตเปิดประทุนสุดโฉบเฉี่ยวจากออดี้ ภายนอกตกแต่งได้เฉียบคม สวยงาม ด้วยล้อแม๊กลายพิเศษ ไบโมโต จากเอ็มทีเอ็ม เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบรถเปิดประทุน บ่งบอกความเป็นตัวคุณเอง ภายในตัวรถตกแต่งได้อย่างลงตัว และสวยงาม มีความเป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับออฟชั่นเสริมมากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่

เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ 5 ใช้เครื่องยนต์ 2.0 TFSi ขับเคลื่อน 4 ล้อ ถูกปรับจูนอีซียูจากเอ็มทีเอ็ม ทำให้มีแรงม้าสูงสุดถึง 270 แรงม้า ที่ 4,000 – 6,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิตที่ 390 นิวตันที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที มาพร้อมกับเกียร์ 7 จังหวะ S-tronic ทำให้มีอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรอยู่ที่ 5.9 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

สำหรับ สำนักแต่ง MTM Audi จากประเทศเยอรมัน ถือเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับด้านการ Modified เครื่องยนต์ของรถยุโรป ซึ่งปัจจุบันมีสาขามากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก

newswit,com 2 ธ.ค.2554

3 ค่ายเกรย์ฯยกทัพรถหรูเอาใจเศรษฐีไทย (29 พ.ย.2554)

ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่กำลังจะมาถึงนอกจากค่ายรถรถยนต์ใหญ่ๆแล้ว ยังมีค่ายเกรย์มาร์เก็ตที่น่าจับตามองอีก 3 ค่ายใหญ่เนื่องจากนำรถหรูหลากหลายแบรนดดังมาประชันโฉมให้บรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนักเลือกช้อปกันมากมาย

“ยูมา” จัดเต็ม 3 แบรนด์ดัง

กฤษณยศ บูรณะสัมฤทธิ กรรมการบริหาร บริษัท ยูมา มอเตอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ยูมาเนรมิตรพื้นที่กว่า 420 ตรม. รังสรรค์รูปแบบงานภายใต้คอนเซปต์ German Luxury & High Performance โดยนำขบวนรถยนต์หรูกว่า 7 คัน ประกอบไปด้วย บราบัส CLS D6S ซีดาน 4 ประตู ที่เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011, บราบัส E6.1 Coupe และบราบัส SV12 ที่ได้รับฉายา “The World Fastest Limousine” 800 แรงม้า มาจัดแสดงพร้อมกัน รวมถึงบราบัส สมาร์ท อัลติเมท 112 (Brabus Smart Ultimate 112) ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 112 คันทั่วโลก

ไฮไลท์ของบูธยูมา มอเตอร์ส คือ รถยนต์บราบัส SV12 ที่เป็นเจ้าของสถิติโลก “The World Fastest Limousine” ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยเร่งจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 10.3 วินาที เครื่องยนต์ขนาด 6.3 ลิตร 12 สูบ เทอร์โบคู่ ให้พลังเครื่องยนต์มากถึง 800 แรงม้าและสร้างแรงบิดได้มากถึง 1,420 นิวตันเมตร ซึ่งมั่นใจว่ารถคันนี้เป็นรถที่มีแรงม้าและแรงบิดสูงที่สุดในเวทีมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2011 โดยมีราคาค่าตัวอยู่ที่คันละ 21.5 ล้านบาท

นอกจากการเปิดตัวของรถยนต์บราบัส ทั้ง 4 รุ่นข้างต้น บริษัทฯ ยังนำยนตรกรรมที่ออกแบบและผลิตด้วยความประณีตแบรนด์วิสมันน์ รุ่น MS4s โรดสเตอร์ (Wiesmann MF4s Roadster), วิสมันน์ MF5 โรดสเตอร์ (Wiesmann MF5 Roadster)

บีอาร์จี ส่งเบนท์ลีย์ 20 ล้าน

ชลลธร ศรีรัตนประภาส กรรมการบริหาร บริษัท เบนซ์ รามคำแหง กรุ๊ป จำกัด หรือ BRG ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์อิสระรายใหญ่ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้เข้าร่วมงาน Motor Expo 2011เพื่อร่วมเข้าโชว์ยนตรกรรมนำเข้ารุ่นใหม่ๆให้คนไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยในปีนี้ทาง BRG ได้จัดเตรียมรถระดับพรีเมี่ยมคาร์เพื่อเข้าร่วมงานแสดงหลากหลายรุ่นรวม 24 รุ่น ซึ่งมีทั้งรถจากฝั่งยุโรปและจากประเทศญี่ปุ่น ให้ผู้ที่เข้าร่วมชมบูธของ BRG ได้สัมผัสยนตรกรรมระดับหรูอย่างใกล้ชิด โดยดาวเด่นประจำบูธในปีนี้คือ ยนตรกรรมระดับหรูจากประเทศเยอรมันที่ได้รับการตกแต่งจากสำนักแต่งชื่อดัง Carlsson ที่มาให้ชมกันหลากหลายรุ่นรวมถึงรถสปอร์ตระดับหรูอย่าง Bentley Continental GT ที่มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีรถหรูตกแต่งพิเศษในสไตล์ของ Carlsson เข้ามาโชว์และจำหน่ายภายในงาน โดยจะมีรุ่น, Carlsson SLK 250 , Carlsson E 250 Coupe , Carlsson E 250 Sedan และ Carlsson Vito รวมถึงรถนำเข้าชั้นนำอีกหลากหลายรุ่นให้ได้ยลโฉมและสัมผัสกัน อาทิ PANAMERA Hybrid 3.0 สปอร์ตซีดานสุดหรู รถประเภท SUV อย่าง Cayenne S Hybrid 3.0 ,Cayenne Turbo , Q5 , PRADO ในส่วนรถเล็กแบบซิตี้คาร์ก็ยังมี Audi A1, Nissan Cube รวมแล้วกว่า 24 รุ่น พร้อมแคมเปญสำหรับลูกค้าผู้ที่สั่งจองและซื้อรถภายในงาน อาทิ ผ่อนเงินดาวน์ได้ถึง 3 งวด โดยไม่มีดอกเบี้ย (ดาวน์ 25%) หรือ ขับฟรี 3 เดือน


Mercedes-Benz E- Coupe

 ทีเอสแอลขนทัพรถหรู 100 ล้าน

ทางด้านค่าย “ ทีเอสแอล “ ยักษ์ใหญ่ตลาดเกรย์ มาร์เก็ต ทุ่มกว่า 20 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่ 800 ตารางเมตร สร้างอาณาจักร “ เดอะ ฟิน” ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2011 พร้อมยกทัพยุโรป- ญี่ปุ่น มาให้ลูกค้าได้เลือกช็อป 18 รุ่น นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่าในปีนี้ทีเอสแอลได้นำรถรุ่นใหม่ๆ ลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท อาทิ รถอีโคคาร์ Peel trident ราคา 850,000 บาท รถ Benley ราคา 17 ล้าน 9 แสนบาท รถปอร์เช่ พานาเมร่า ดีเซล ราคา 9 ล้านบาท Rang rover evoque ราคา 4.2 ล้านบาท และชุดแต่งลอรินเซอร์ เมอร์เซเดสเบนซ์ สปอร์ท รุ่น CLS

Rang rover evoque

บูธแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่งถือเป็นไฮไลท์ของบูธ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงรถ ถือเป็นความอลังการที่สุด โดยมีจอ LED ขนาด 3 x 4เมตร ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้สึก คุณสมบัติ และความหรูหราของยนตรกรรมทุกรุ่น ทุกยี่ห้อเพื่อให้ลูกค้าและผู้เข้าชมงานได้รับชมอย่างละเอียด ส่วนที่สอง จะเป็นส่วนพักรับรองลูกค้าทุกท่าน พร้อมมุม Life Style Zone เพื่อให้ลูกค้าได้มาพักผ่อน พร้อมเพลิดเพลินกับการชมรถของทีเอสแอล.ไปด้วย ส่วนสุดท้าย จะเป็นส่วนของสำนักงานทีเอสแอลเองที่ยกมาไว้ที่นี่ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554

“คาร์แมกซ์”จัดงานชน“เอ็กซ์โป”ลด-แจกกระหน่ำ (29 พ.ย. 2554)

ข่าวในประเทศ - “คาร์แมกซ์” ทุ่มงบจัดหนัก เปิดโชว์รูมย่านถนนพระราม 9 ขนรถหรูกว่า 200 คันจัดงาน CARMAX AUTO EXPO 2011 ลดกระหน่ำส่งท้ายปี พร้อมลุ้นรับรางวัลอีกเพียบกว่าล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 2-12 ธ.ค.นี้ บอสใหญ่ “ ชัชชัย สิทธิเดชชาญชัย ” ยืนยันมั่นใจทุกคันถูกและคุ้มค่าสุดๆ

คุณชัชชัย สิทธิเดชชาญชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาร์แมกซ์ พระราม 9 จำกัด เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 2-12 ธันวาคม 2554 นี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดงาน CARMAX AUTO EXPO 2011 “ มหกรรมรถหรู ลดกระหน่ำส่งท้ายปี” ขึ้น ด้วยการนำรถยนต์นำเข้าทุกรุ่น ทุกแบรนด์กว่า 200 คันมาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อในราคาสุดพิเศษ ถูกที่สุด คุ้มที่สุดส่งท้ายปี โดยจะมีทั้ง MERCEDEZ BENZ, BMW, AUDI, MINI COOPER, PORSCHE, LAMBORGHINI, BENTLEY, LAND ROVER, RANGE ROVER, TOYOTA, NISSAN, MAZDA ซึ่งรถทั้งหมดนี้เป็นรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมและซุปเปอร์คาร์ที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลกที่บริษัทนำมาจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Not just a CARSHOW, It’s an EXPO

“เราอยากให้ลูกค้ามีทางเลือกซื้อรถหรูราคาแพงในราคาที่ถูกที่สุดเพื่อเป็นของขวัญส่งท้ายปี ภายใต้นิยาม “เถ้าแก่ชัช รอต้อนรับทุกท่านที่โชว์รูมทุกวัน เคาะทุกคัน เคาะทุกราคาที่ท่านพอใจด้วยตัวเอง” เพื่อเป็นการมอบความมั่นใจให้ลูกค้าทุกท่านอุ่นใจ เถ้าแก่ชัชยินดีดูแลลูกค้าทุกท่านด้วยตัวเอง เพื่อให้ทุกท่านมั่นใจราคา และมั่นใจในคุณภาพ ซึ่งในงานนี้ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษที่ทาง CAR MAX ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากพันธมิตร KL Leasing กสิกรไทย, ธ.อิสลาม, ธ.เกียรตินาคิน และ บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง ที่มาคอยให้บริการลูกค้าในงานนี้ด้วย “ นายชัชชัย ยังกล่าว ด้วยว่าทางบริษัทได้จัดให้มีการชิงรางวัลมูลค่ามหาศาลอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเตรียมไว้ให้สำหรับผู้ที่มาจองและซื้อรถในงานมหกรรมครั้งนี้ดังนี้นอกจากรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลรถ MAZDA-2 มูลค่ากว่า 580,000 บาทแล้ว ลูกค้ายังมีสิทธิ์ลุ้นรับทองคำมูลค่า 10 บาทอีก 2 เส้น รางวัล I-PAD 2 จำนวน 3 เครื่อง รับตั๋วหนัง VIP FIRST CLASS 2 ที่นั่ง/1 สิทธิ์ที่จอง และที่พิเศษสุดคือถ้าเป็นลูกค้าต่างจังหวัดที่จองรถในงานจะได้รับทันทีค่าที่พักโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน มูลค่า 25,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นนับล้านบาท

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤศจิกายน 2554

รัฐบาลขานรับ MOTOR EXPO 2011 กู้วิกฤตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยหลังอุทกภัย (พฤศจิกายน 2554)

กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--โปรเฟสชันแนล มีเดีย บิสซิเนส
กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมประชุมร่วมบริษัทรถยนต์ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 28” วางแนวทางฟื้นฟูหลังวิกฤตอุทกภัย สื่อสากลเดินหน้าชวนคนไทยชมงานฟรี! 1 – 12 ธันวาคมนี้ พร้อมลุ้นแคมเปญใหญ่ แจกรถ 3 คัน และรางวัลพิเศษอีกเพียบ รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 28” หรือ “THE 28th THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2011” เปิดเผยว่า ภายหลังตัดสินใจเดินหน้าจัดงานตามกำหนดการเดิม คือ วันที่ 1-12 ธันวาคม 2554 ทำให้ได้รับกำลังใจและความร่วมมืออย่างดีจากบริษัทรถยนต์ และผู้จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องที่เข้าร่วมงาน ที่พร้อมร่วมผลักดันให้งานประสบความสำเร็จ ภายใต้แนวคิด “ฤดูผลิบาน ดอกไม้ยานยนต์” เพื่อเป็นของขวัญแก่ประชาชนส่งท้ายปี 2554

ที่สำคัญภาครัฐได้ตอบตกลงเข้าร่วมการประชุม “AUTOMOTIVE FORUM WITH THE GOVERNMENT” หัวข้อ “อนาคตของธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ไทยหลังวิกฤตอุทกภัย” โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมแสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับผู้บริหารบริษัทรถยนต์ ซึ่งผู้จัดงานเชื่อว่าจะนำไปสู่แนวทางการเยียวยาและฟื้นฟูธุรกิจยานยนต์ในอนาคต

“ผู้จัดงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นต้นแบบแก่ธุรกิจอื่นๆ ในช่วงเกิดวิกฤตการณ์ว่าเราจะต้องจับมือกันก้าวต่อไป เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยไม่ทำให้บรรยากาศการค้าและการลงทุนชะงักงันไปกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น” ขวัญชัย กล่าว

ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากปีนี้จะเปิดให้ชมงานฟรี และผู้จัดยังได้เตรียมแคมเปญที่พิเศษกว่าทุกปี พร้อมด้วยหลากหลายกิจกรรมน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ซื้อรถ ชิงรถ, บัตรฟรี ชิงรถ, SMS ชิงรถ, ซื้อสินค้า ชิงรางวัล และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อคืนกำไรแก่ผู้ชมงาน รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท อาทิ

1) “ซื้อรถ ชิงรถ” เมื่อลูกค้าจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ในงาน มีสิทธิ์ได้รับคูปองชิงรางวัลรถยนต์ รถฟอร์ด เฟียสต้า (FORD FIESTA) รุ่น สปอร์ต พลัส ลิมิเต็ด อิดิชั่น (Sport Plus Limited Edition) มูลค่า 724,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

2) “ชมงาน ชิงรถ” ลูกค้าที่มีบัตรเข้าชมงานฟรี บัตรลด 50% และบัตร VIP (สีทอง, สีแดง) สามารถแลกเป็นคูปอง กรอกชื่อ – ที่อยู่ ลุ้งชิงรางวัล รถกระบะ ทาทา ซีนอน (TATA XENON) มูลค่า 514,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

3) “SMS ชิงรถ” หรือ กิจกรรม “ร่วมลุ้นแบบคนรุ่นใหม่” สำหรับลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือในระบบเครือข่าย TRUEMOVE สามารถร่วมลุ้น รถยนต์ นิสสัน อัลเมร่า (NISSAN ALMERA) มูลค่า 489,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

4) “ซื้อสินค้า ชิงรางวัล” เมื่อซื้อสินค้าภายในงานจากร้านเดียวกันทุกๆ 1,000 บาท จะได้รับคูปองชิงโชค 1 ใบ เพื่อลุ้นรางวัลเครื่องนวดไฟฟ้าและเก้าอี้นวดไฟฟ้า รวมมูลค่า 966,100 บาท

พลาดไม่ได้! กับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 28” ระหว่างวันที่ 1–12 ธันวาคม 2554 นี้ ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมรับชมการถ่ายทอดสดงานได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 13.50 – 15.40 น.

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: คุณธัชชนันท์ จันทุสาร บริษัท สื่อสากล จำกัด

โทร. 0-2641-8444 ต่อ 405 โทรสาร 0-2641-8480 อีเมล์ ices566@hotmail.com,
http://www.facebook.com/motorexpo และ http://twitter.com//MotorExpoThai
ทีมประชาสัมพันธ์งานมหกรรมยานยนต์: บริษัท โปรเฟสชันแนล มีเดีย บิสซิเนส จำกัด

คุณพรรษชล พรหมภัทรพันธ์ และคุณวิมลพรรณ นามพาโชค
โทร. 0-2530-3218 # 13, 15 โทรสาร 0-2530-4542-3
อีเมล์: patsachon_p@pmb.co.th, wimonpan_n@pmb.co.th